ฝึกมดหามะเร็ง การศึกษาใหม่กล่าวว่า ระบบการดมกลิ่นที่ว่องไวละเอียดอ่อนมากของมด ทำให้วันหนึ่ง มนุษย์อาจใช้มดในการช่วยตรวจหาโรคมะเร็งในมนุษย์ได้ ส่วนในตอนนี้ นักวิทยาศาสตร์พบเป็นครั้งแรกว่า มดช่วยตรวจค้นโรคมะเร็งในหนูได้ “มดอาจถูกฝึกภายในเวลา 10 นาที เพื่อสูดดมหากลิ่นมะเร็งในฉี่ของหนู” บาทีสต์ พิเคเรต์ หัวหน้าในการศึกษานี้กล่าวกับบีบีซี พิเคเรต์เริ่มทำงานวิจัยด้านนี้ในปี 2017 และสามารถฝึกฝึกมดให้แยกระหว่างเซลล์ดีกับเซลล์ของมะเร็งที่ถูกเพาะในห้องปฏิบัติการได้ แม้กระนั้นตอนนี้ คณะทำงานของเขาก้าวหน้าไปอีกขั้น ครั้งนี้มดตรวจค้นเนื้องอกของมนุษย์ในหนูได้แล้ว ฝึกมดให้ตรวจจับกลิ่นมะเร็ง พิเคเรต์ และ ทีมงาน ของ เขา ใช้เทคนิคที่เรียกว่า การ ย้าย เนื้อเยื่อ (xenografting) ซึ่ง เป็นการ เปลี่ยนถ่ายโรคมะเร็งเต้านม ใน มนุษย์ ใน ตัว หนูและปลดปล่อยให้มันขยายตัว ต่อจากนั้นพวกเขาจะเก็บเนื้อเก็บตัวอย่างฉี่อีกทั้งจากหนูที่แข็งแรงและหนูที่มีโรคมะเร็ง “ระหว่างการฝึกนี้ เราวางมดลงไปในสนามวงกลม และวางอาหารไว้เป็นรางวัลใกล้กับปัสสาวะของหนูที่มีโรคมะเร็ง” เขากล่าว ตอนที่มดพบเจอรางวัล พวกมันจะเชื่อมโยงกลิ่นของเซลล์มะเร็งกับรางวัลนี้ และเรียนรู้ที่จะจำกลิ่นนั้นไว้ “เซลล์ก็เหมือนกับโรงงาน พวกมันต้องต้องได้รับสารอาหารเพื่อมีชีวิตและผลิตของเสีย เซลล์มะเร็งผลิตของเสียซึ่งสามารถถูกตรวจจับจากกลิ่นได้” พิเคเรต์ กล่าว การศึกษานี้ชี้แจงว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง …
แฉตำรวจไทย เศรษฐกิจถดถอย เงินเฟ้อ ข้าวแพง แรงงานถูก สภาพแบบนี้ใครๆ ก็มองหาอาชีพเสริมทั้งนั้น.. ไม่เว้นแม้แต่ตำรวจ แต่ในช่วงที่ผ่านมา อาชีพเสริมของเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่ละอย่างเรียกได้ว่า ‘ท็อปฟอร์ม’ อย่างยิ่ง ตั้งแต่ขับรถนำขบวน, รับต่อวีซ่าทุนจีน, รับไกลเกลี่ยคดีทุนจีน ซึ่งล้วนแต่เป็นการทุจริต ใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ แถมปัจจุบันยังมีกรณีดาราไต้หวันที่กล่าวถึงว่าถูกตำรวจรีดไถอีก ทั้งหมดนี้เป็นการสร้างวัฒนธรรมที่เลวทรามรวมทั้งซ้ำเติมภาพลักษณ์ ‘มิจฉาชีพในเครื่องแบบ’ ให้กระจ่างขึ้นในกลุ่มผู้รักษากฎหมาย พวกเราทดลองไล่ดูตามหน้าข่าวสารว่าในช่วงที่ผ่านมาตำรวจไทย รับจ็อบทำ ‘อาชีพเสริม’ อะไรบ้าง แล้วก็แอบการันตีว่าแต่ละจ็อบเด็ดๆจนต้องเอาเท้าก่ายหน้าผากทั้งนั้น แฉตำรวจไทย ขับรถนำขบวน กลายเป็นประเด็นใหญ่ตั้งแต่ช่วงต้นอาทิตย์ที่ผ่านมาเมื่อแอคเคาท์ TikTok ชาวจีน @choudan0302 โพสต์คลิปว่าเธอทดสอบซื้อบริการตำรวจไทย และเมื่อเธอมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิก็พบว่ามีชายคนหนึ่งตัดผมสั้นเกรียนถือกระดาษ A4 ที่มีชื่อเธอมารออยู่ด้านในของท่าอากาศยาน แล้วเดินนำทาง ถือกระเป๋า พาเธอลัดช่องด่านตรวจศุลกากร จนออกมาถึงภายนอกสนามบิน เธอก็ได้เจอกับตำรวจท่องเที่ยว 1-2 นาย ที่พาเธอขึ้นรถไปส่งถึงโรงแรมบ้านพัก โดยระหว่างทางทั้งรถยนต์ที่เธอนั่งแล้วก็รถจักรยานยนต์นำขบวนมีการเปิดสัญญาณไซเรนอยู่เสมอเวลา ดังนี้ เธอระบุว่าค่าเดินทางนำขบวนมี 2 ราคา รถมอเตอร์ไซค์อยู่ที่ 6,000 บาท รถยนต์ 7,000 บาท …
เดอะลาสต์ออฟอัส (The Last of Us) ซีรีส์จากค่าย HBO ที่สร้างขึ้นมาจากวิดีโอเกมส์ชื่อดังกำลังเขย่าขวัญผู้ชมด้วยเรื่องราวสุดสยองของเชื้อราที่เปลี่ยนแปลงมนุษย์ให้กลายเป็นซอมบี้ ตามเนื้อเรื่องระบุว่า เมื่อมนุษย์ได้รับสปอร์เชื้อราชนิดนี้ไปสู่ร่างกาย เห็ดราก็จะเติบโตขึ้นแล้วเข้าควบคุมความคิดจิตใจ จนถึงเจ้าของร่างสูญเสียการควบคุมตัว และก็ถูกออกคำสั่งให้ปีนป่ายขึ้นสู่ที่สูง เชื้อราปรสิตจะกัดกินเหยื่อจากข้างใน เพื่อสกัดสารอาหารทั้งหมดจากร่างเหยื่อสำหรับเตรียมนำไปสู่ขั้นสุดท้าย เจมส์ กาลาเฮอร์ ผู้ดำเนินรายการอินไซด์เฮลธ์ (Inside Health) ทางสถานีวิทยุสถานีวิทยุกระจายเสียงบีบีซีเรดิโอโฟว์นำเสนอว่า ฉากหนึ่งในเรื่องที่น่ากลัวยิ่งกว่าหนังสยองขวัญทั้งปวงก็คือ ภาพของแขนงที่ความตายที่แตกออกออกจากหัวเหยื่อผู้ถูกเชื้อราซอมบี้เข้าครอบงำ ซึ่งในเวลาต่อมา ร่างเหยื่อเหล่านี้จะแพร่สปอร์เชื้อรามรณะออกไปรอบข้าง เพื่อให้มนุษย์บุคคลอื่นติดเชื้อแล้วกลายสภาพเป็นซอมบี้เหมือนกัน กาลาเฮอร์บอกว่าแม้เนื้อเรื่องนี้จะเป็นเพียงนิยายสยองขวัญ แต่ก็มีเค้าโครงจากเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในธรรมชาติ เชื้อราปรสิตที่ชื่อ คอร์ดิเซปส์ (Cordyceps) และโอฟิโอคอร์ดิเซปส์ (Ophiocordyceps) ได้รับสมญานามว่า “เชื้อราซอมบี้” เพราะว่าสามารถควบคุมร่างกายของแมลงให้มีพฤติกรรมจากซอมบี้ได้ และก็เซอร์ เดวิด แอตเทนบะระ ผู้ปฏิบัติธรรมชาติวิทยาชื่อดังผู้ดีอังกฤษก็เคยเสนอเรื่องราวนี้ไว้ในสารคดีชุดแพลนเน็ตเอิร์ธ (Planet Earth) ของสถานีวิทยุกระจายเสียงบีบีซีที่แสดงให้เห็นเชื้อราชนิดนี้เข้าบงการและก็กัดกินมดตัวหนึ่ง ภาพน่าตะลึงงันของ “มดซอมบี้” ในสารคดีชุดนี้ได้กลายเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างวิดีโอเกมยอดฮิต The Last of Us แล้วก็ซีรีส์ที่มีเค้าเรื่องเดียวกัน อีกทั้งในเกมรวมทั้งซีรีส์บอกเล่าเรื่องราวของเชื้อราคอร์ดิเซปส์ที่ข้ามขั้นจากการหาเหยื่อที่เป็นแมลงมาเป็นการเข้าครอบครองร่างของคนเรา จนกระทั่งนำไปสู่การระบาดใหญ่ที่ทำลายล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์ แต่ในโลกของความจริงมีความเป็นไปได้ขนาดไหนที่จะเกิดการระบาดใหญ่ของเชื้อคอร์ดิเซปส์ หรือเชื้อเห็ดราชนิดอื่นๆ …
ในทุกๆปี MIT Technology Review จะเลือกเอา 10 เทคโนโลยี 2023 ที่สำคัญที่สุดที่ปีมาอัปเดตให้กับเราได้ทราบว่าเวลานี้โลกพัฒนาไปถึงไหนแล้ว มีเทคโนโลยีอะไรใหม่ๆ ออกมาบ้าง หรือเทคโนโลยีใด ที่กำลังเป็นกระแส เนื่องจากว่าความรุ่งเรืองของเทคโนโลยี ค่อนข้างจะที่จะส่งผลเสียต่อการใช้ชีวิต ของพวกเรามากพอเหมาะสม เราจะต้องที่จะตามให้ทัน เพื่อดูว่ามีเทคโนโลยีใดบ้างที่เรา ใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน ได้มากที่สุด หรือมีส่วนเกี่ยวข้องจนกระทั่งจะต้องติดตามอย่างสม่ำเสมอ ซึ่ง MIT Technology Review ก็ได้ให้เหตุผลมาด้วยว่า เหตุใดเทคโนโลยีทั้งหมดนี้จึงสำคัญ CRISPR ตัดต่อยีน เพื่อควบคุมคอเลสเตอรอล ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา CRISPR (คริสเปอร์) ซึ่งเป็น gene-editing tool ถูกพัฒนาอย่างรวดเร็ว จากห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์สู่สถานพยาบาล โดยเริ่มต้นมาจาก การใช้รักษาเชิงทดลองสำหรับข้อผิดพลาดปกติทางพันธุกรรมที่หายาก แต่ในเวลานี้ CRISPR เริ่มเป็นที่แพร่หลายสู่การทดลองทางสถานพยาบาล สำหรับสภาวะทั่วไป จนถูกนำมาใช้รักษาโรค ที่พื้นฐานมากขึ้น อาทิเช่น การควบคุมสภาวะคอเลสเตอรอลสูง รูปแบบใหม่ของ CRISPR กำลังก้าวเดินต่อไป AI ที่สร้างรูปภาพขึ้นมา ในปีที่ผ่านมา AI …
แพรรี่ ไพรวัลย์ ฟาดครูบาคนดังภาพหลุดซ้อนเจ็ตสกี เรื่องคาวๆ เน่าเหม็น ไม่ควรอยู่ในวงการผ้าเหลือง ถามเป็นครูบาแบบสุกตามธรรมชาติ หรือบ่มแก๊ส ภายหลังจาก “แพรรี่ ไพรวัลย์” โพสต์แซ่บปลุกสังคมพุทธ ฟาดกรณีที่ครูบาชื่อดังมีภาพหลุดเล่นเจ็ตสกี เล่นน้ำตก ซึ่งเห็นว่าในทางสงฆ์ถือว่าไม่เหมาะสม ล่าสุดมีโอกาสได้พบแพรี่ ได้เปิดใจถึงเรื่องราวดังกล่าวให้ฟังว่า “รู้สึกแรงมากค่ะ ประทุภูเขาไฟ ขยันปะทุมากเลย ให้ชาวบ้านมีเรื่องติฉินนินทาตลอด หนูไม่ได้พอใจที่วงการสงฆ์เป็นแบบนี้ ในฐานะที่หนูเคยเป็นคนภายในวงการ หนูก็อยากเห็นรุ่นน้องในวงการในช่วงเวลานี้ มีภาพลักษณ์ที่ดี คนศรัทธาคนชื่นชอบ นับถือพระ นับถือศาสนามากเพิ่มขึ้น หนูอยากเห็นมุมนั้นมากกว่า คาวๆ เป็นเรื่องของฆราวาสไหมคะ เรื่องคาวๆ เหม็นๆ เน่าๆ ไม่ควรเป็นเรื่องของคนในวงการผ้าเหลือง” เคสล่าสุดเราแสดงความเห็นดุเดือดเหมือนกัน ? “ก็หนูเห็นว่า มันไม่จบซักทีหนึ่ง เริ่มมีภาพหลุดเรื่อยๆ ตัวพระเอง ท่านก็เหมือนไม่ได้เป็นทองรู้ร้อนอะไร ไม่ได้รู้สึกว่าสิ่งที่ท่านทำ คือความเสียหาย ท่านจะแสดงความรับผิดชอบยังไง คณะสงฆ์จะมีแนวทางยังไง ด้วยเหตุว่าก็มีการโยนว่า ให้เป็นเรื่องของศาล ให้ศาลตัดสินมีความผิดถูกยังไง ทั้งที่บางภาพไม่มีความจำเป็นต้องรอศาลมีคำพิพากษา ภาพไม่เหมาะสม ยกตัวอย่างเช่น ภาพขี่เจ็ตสกีควรมีแนวทางได้แล้ว แล้วตัวพระที่มีพฤติกรรมอย่างงั้น กลับมาบอกไม่ใช่เรื่องเสียหายไม่ผิด …
ยิงกราดตรุษจีน สื่อท้องถิ่น ใน สหรัฐอเมริกา หลายสำนัก รวมทั้ง ซีบีเอสนิวส์ พันธมิตร ของ บีบีซี รายงาน ตรงกัน โดย อ้าง แหล่งข่าว จาก หน่วยงาน บังคับ ใช้ กฎหมาย ระดับ ท้องถิ่น ของ ลอสแอนเจลิส ว่า มือปืนกราดยิง ได้ ยิงตัวตาย ภายใน รถตู้สีขาว ซึ่ง เจ้าหน้าที่ ตำรวจ ล้อมจับ เมื่อ ไม่กี่ชั่วโมงก่อน เจ้าหน้าที่ตำรวจรายงานว่า ผู้ก่อเหตุเป็นชายชาวเอเชีย วัย 72 ปี เหตุกราดยิงเกิดขึ้นเมื่อเวลาราว 22.20 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันเสาร์ที่ 21 มกราคม (หรือราวๆ 13.20 น. ของวันอาทิตย์ที่ 22 เดือนมกราคม ตามเวลาของประเทศไทย) ที่ห้องเต้นรำในเมืองมอนเทอเรย์พาร์ก …
“แอนนา เสือ” ยอมรับหูดับไม่เข้ารอบ 16 คน มิสยูนิเวิร์ส 2022 ช็อกที่ตุ๊บ เหมือนคนอกหักชวดมงฯ แต่ว่าฟื้นตัวเร็วจากความผิดหวัง ลั่นอยากปลดปล่อยความรู้สึก เครียดมาเยอะ อยากเข้าผับ ภายหลังจากที่ทักทายแฟนๆ ที่มาต้อนรับอุ่นหนาฝาคั่งที่สนามบินสุวรรณภูมิ “แอนนา เสืองามเอี่ยม” มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2022 ก็ได้ออกมาเปิดใจแบบเต็มๆ กับสื่อมวลชน โดยเปิดเผยว่าการประกวดบนเวที มิสยูนิเวิร์ส 2022 ตนทำเต็มที่ที่สุดแล้ว แต่ก็ยอมรับว่าช็อกที่ตุ๊บ เหมือนคนอกหัก “กลับมาก็ตื่นเต้นค่ะ ตื่นเต้นตลอดทางเลย เพราะว่าไม่ได้อยู่ไทยเกือบจะเดือนแล้วค่ะ ก็ได้ข่าวมาว่าจะมีคนมารอต้อนรับเยอะมาก ก็เลยตื่นเต้นเป็นธรรมดาค่ะ แต่ว่าวันนี้พอมาถึงก็มีความสุขมาก เนื่องจากทุกคนก็รอต้อนรับอย่างอบอุ่น พอเครื่องลงจอดรีบเข้าห้องน้ำก่อนเลยค่ะ แต่ก็สนุกทุกอย่าง ขึ้นเครื่องมาก็ตื่นเต้นค่ะ พอมาถึงก็แฮปปี้ ก็ไม่คิดว่าคนจะเยอะขนาดนี้ เนื่องจากว่าผลงานที่ผ่านมาแม้ว่ามันจะผิดพลาด ผิดหวังกันไปบ้าง แต่อย่างน้อยทุกคนก็เห็นว่าแอนนาเต็มที่ มารับกันเยอะขนาดนี้แอนนาก็ซึ้งใจมากๆ ก็รู้ว่ากำลังใจที่ประเทศไทยเยอะมากๆ รู้มาตลอดเลยค่ะ ก็ได้อ่านฟีดแบ็กอยู่ค่ะ โดยเฉพาะวันสุดท้ายทุกคนก็เสียใจไปพร้อมกัน ร้องไห้ไปพร้อมกันค่ะ ในช่วงเวลานี้แอนนาก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ก็อยากให้ทุกคนดีขึ้นไปพร้อมกัน และเปิดรับสิ่งใหม่ๆ เข้ามาพร้อมกันค่ะ” เผยวินาทีไม่เข้ารอบ 16 คนสุดท้าย …
รวมพลจับโจร ‘ดีเจมะตูม’ จัดฉาก นัด วาวา มิจฉาชีพมาเจอที่ร้าน ก่อนให้ตำรวจรวบ พร้อมซักถามชุดใหญ่ ปมหลอกลวงคนอื่นมาลงทุน โดยอ้างว่าสนิทกัน ทำนักลงทุนที่เกี่ยวข้อง เสียหายร่วมสิบล้าน เผยวีรกรรมสุดแสบ มีคดีติดตัวเพียบ ถึงขนาดต้องใส่กำไลอีเอ็ม เมื่อตอนเที่ยงของวันที่ 16 มกราคม 2566 ได้มีการรายงานข่าว ผ่านรายการ เที่ยงวันทันเหตุการณ์ เปิดเผยเรื่องราวสุดช็อค ของมิจฉาชีพสาวชื่อ วาวา อ้างสนิทกับ ดีเจมะตูม เตชินท์ พลอยเพชร แถมทำงานด้านธุรกิจดัง ถอนเงินครั้งละ 600 ล้านบาท ก่อนหลอกคนอื่นให้ลงทุนซื้อทอง และก็นาฬิกาหรู เรื่องราวของ วาวา มิจฉาชีพสาว ที่หลอกคนอื่นให้ลงทุน โดยอ้างชื่อดีเจมะตูม ได้ถูกตำรวจรวบตัวได้ เหตุเพราะหนึ่งในผู้เสียหายรายใหญ่อย่าง ‘ก้ง’ ได้ติดต่อเข้าพบ กับดีเจมะตูม เพราะเหตุว่าสงสัยว่าตนเองโดนหลอกเงินไปกว่า 7.4 ล้านบาท ก้งได้เดินทางไปพบมะตูมแล้วเล่าให้ดีเจมะตูมฟังว่า ตนรู้จักกับผู้หญิง ที่ชื่อวาวา จากร้านแห่งหนึ่ง ย่านทองหล่อ โดยได้พูดคุยกันหลายเรื่อง จนวาวาอ้างตัวว่า …
ดาราหนังสาวยุค 90 “จิ๊บ คีตภัทร อันติมานนท์” โพสต์ IG ชี้แจงเรื่องข่าวหลุด ที่หลายคนเดาว่าเป็นตนเอง ยืนยันไม่ใช่ เนื่องจากว่ามาหาครอบครัว ที่สหรัฐฯ ลั่นดำเนินดคีแน่ๆ ฐานทำให้ตนเกิดความเสียหาย ยันไม่ใช่ นางเอก จ. ถูกปล่อยคลิปลับ เจอเรียกเงิน 4 แสน จ่อเอาผิด คนกุข่าวมั่ว ทำเสียหาย เพื่อรักษาสิทธิ และความถูกต้องให้ถึงที่สุด เป็นประเด็นร้อน กระเทือนวงการบันเทิง ภายหลังที่ผู้ใช้แอปพลิเคชั่น TikTok รายหนึ่ง ได้ออกมากล่าวอ้าง เผยข้อความว่า “มีข่าวหลุด!! อดีตนางเอกดังช่องหลายสี แอบไปซื้อชายหนุ่มนอกวงการกิน แล้วโดนชายหนุ่มอัดคลิป แบล็กเมล์ เรียกเงิน 4 แสน ปัจจุบันมีคลิปหลุดออกมา เร็ว ๆ นี้ เจ้าตัวเตรียมตัวแถลงข่าวแน่นอน” ถัดมา ก็ได้โพสต์อีกว่า “โดนแล้ว! อดีตนางเอกดัง ช่องหลายสี ชื่อย่อ จ. เข้าแจ้งความเอาผิดชายหนุ่มนอกวงการ หลังขายคลิปตัวเอง …
หนังสือเจ้าชายแฮร์รี่ รอยเตอร์ สรุป ประเด็น จาก “Spare” หนังสือเล่มใหม่ ของ เจ้าชาย แฮร์รี รัชทายาท ลำดับ ที่ ห้า ของ บัลลังก์ อังกฤษ เกี่ยวกับความเกี่ยวพันของท่าน ต่อ สมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ 3 พระบิดา, เจ้าฟ้าชายวิลเลียม พระเชษฐาแล้วก็รัชทายาทลำดับที่หนึ่งของบัลลังก์อังกฤษ และก็ราชวงศ์อังกฤษท่านอื่นๆที่ไม่เคยถูกตีพิมพ์มาก่อน ในช่วงเวลาที่โฆษกในพระองค์ของกษัตริย์อังกฤษรวมทั้งเจ้าฟ้าชายวิลเลียม ปฏิเสธมีความเห็น ต่อ หนังสือ ประเด็นร้อน เล่มนี้ การทะเลาะวิวาทกับเจ้าฟ้าชายวิลเลียม เจ้าชายแฮร์รี ทรงเผย ใน หนังสือเล่มนี้ ว่า เจ้าฟ้าชายวิลเลียม เคย ทรงผลัก พระองค์ล้มลงพื้น ขณะ ที่ ทั้งสอง พระองค์ ทรง ถกเถียง กัน เกี่ยวกับ เมแกน พระชายา ของ เจ้าชายแฮร์รี โดย พระองค์ …